SOFT POWER ชีวิตที่คลั่งไคล้ของผู้หญิงที่ชื่อ “เฌอปราง”
“ช่วงที่หนัง Girls Don’t Cry ฉาย ซึ่งในหนังเราก็เหมือนเป็นตัวร้ายของเรื่อง แต่เข้าใจนะว่ามันเป็นวิธีเล่าเรื่องของหนัง”
หลังจากดู Girls Don’t Cry จบเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่รู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้เป็นเหมือนเครื่องจักรที่ทำงานตามคำสั่ง พุ่งตรงไปยังเป้าหมายอย่างไม่ลดละ ราวกับว่าเธอ “ไม่มีหัวใจ” (แต่สตอร์รี่ของเธอก็ได้รับการแก้ไขและปรับมุมมองใหม่อีกครั้งใน One Take)
แม้ว่าจะไม่ใช่คนที่ติดตามเฌอปรางแบบจริงจัง แค่รู้ว่าเธอเป็นใคร ทำอะไร มีชื่อเสียงแค่ไหน ความสามารถมากน้อยเพียงใด และพอจะรู้ทัศนคติบางอย่างของเธอผ่าน Girls Don’t Cry และ One Take มาบ้าง แต่การได้อ่าน SOFT POWER เป็นเหมือนการเปิดประตูเข้าไปนั่งในใจของเฌอปราง สำรวจความคิดและทำความรู้จักกับเธออย่างตั้งใจผ่านคำถามของ “นิ้วกลม”
หนึ่งในสิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้คือชีวิตวัยเด็กส่งผลให้เธอมองแต่เป้าหมายจนแทบไม่สนใจคนรอบข้าง เฌอปรางเติบโตมาพร้อมกับความไม่รู้ว่า การกอบโกยงานมานั่งทำคนเดียวไม่กระจายงานและหน้าที่ให้เพื่อน ๆ จะทำให้คนรอบข้างมองเธอแย่ จนถึงขั้นไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอทำลงไปนั้นจะสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับคนรอบข้าง จนถึงขั้นมองว่าเธอไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำงาน
แต่ภายใต้ความคิดเหล่านั้นของเฌอปรางกลับเต็มไปด้วยความเป็นห่วงคนรอบข้าง “มากจนเกินไป” ทำให้เธอเลือกที่จะ “ตัดอารมณ์” บางอย่างออกจากชีวิต นั่นจึงเป็นคำตอบว่าทำไมเวลาได้เห็นเธอทั้งในซีรีส์ หรือภาพยนตร์ เฌอปรางจะแสดงอารมณ์ออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก
ซึ่งใน SOFT POWER เฌอปรางได้บอกเอาไว้ว่า ปกติแล้วตัวเธอไม่ค่อยได้แสดงอารมณที่หลากหลายเท่าไหร่นัก การที่เธอได้เล่นหนังเรื่อง Homestay เป็นเสมือนการปลดล็อกอารมณ์ที่ออกมา เธอได้เรียนรู้ว่า การร้องไห้ไม่ใช่เรื่อที่ผิด และบางครั้งคนเราควรระบายความรู้สึกที่มีออกมาบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ควรจะควบคุมไม่ให้มันออกมามากเกินความจำเป็น
นอกจากนี้ SOFT POWER ยังทำให้เห็นประโยชน์ของ "ความคลั่งไคล้" ที่พาให้เฌอปรางมาไกลกว่าที่เธอเคยคิดเอาไว้มาก จากเด็กสาวธรรมดาที่ ร้อง และเต้นไม่เป็นเลย เป็นเพียงแค่คนที่หลงไหลในอนิเมะ และจากบรรดาอนิเมะที่เธอนั่งดู มันพาให้เธอได้ไปเจอกับ AKB48 ก่อนที่เธอจะกลายมาเป็นติ่งไอดอลรุ่นพี่อย่าง "ซายาเน่"(ยามาโมโตะ ซายากะ) กัปตันวง NMB48 ในเวลาต่อมาและทำให้เธอเริ่มทำความรู้จักกับ 48G มากยิ่งขึ้น และสนใจมันกหนักขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อโอกาสมาถึง
เฌอปรางก็ไม่รอช้าลองสมัคร BNK48 โดยไม่หวังผล
แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อเธอได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่และแฟนคลับเธอก็ทุ่มเทเต็มที่เพื่อไม่ทำให้ใครผิดหวัง แม้ว่าในมุมมองของคนนอกระบบ 48G อย่างพวกเรา 48G ดูจะป็นระบบที่แอบโหดร้ายไปซักนิด เมื่อท้ายที่สุดแล้ว ความพยายามอาจไม่ได้พาให้ญิงสาวหนึ่งคนขึ้นไปอยู่บนดวงดาวได้อย่างที่ใจหวัง ซ้ำร้ายแม้สมาชิกแต่ละคนจะเป็นเพื่อนกัน ท้ายที่สุดพวกเธอต่างก็ต้องแข่งขันกันเพื่อไปยืนอยู่หน้าฉากให้ได้แทบจะตลอดเวลา
แต่กลับกันแล้วในมุมมองของเฌอปรางคิดว่าระบบ 48G เป็นเสมือนการจำลองสังคมมนุษย์ที่ต้องมีการแข่งขันตลอดเวลาซะมากกว่า เพราะความพยายามเพียงอย่างเดียวอาจไม่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ บุคคลิก หน้าตา โอกาส เองก็เป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลให้คน ๆ นึงสามารถเดินทางไปสู่ฝันและประสับความสำเร็จได้
จากความคลั่งไคล้ในอนิเมะพาเฌอปรางเดินทางผ่านการคอสเพลย์ การทำชุด และลองลงสมัคร BNK48 ทั้งหมดคือน่าจะเป็นคำตอบได้ว่าทำไมเฌอปรางถึงสามารถก้าวขึ้นมามายืนอยู่ในจุดนี้ได้
แม้สตอร์รี่ในหนังสือเล่มนี้จะเผยให้เห็นว่าผู้หญิงคนนี้มีความมุ่งมั่นมากแค่ไหน และผ่านอะไรมามากมายหลายอย่าง แต่หนังสือเล่มเดียวกันนี้ก็เป็นเชื้อเพลิงและพลังบวกชั้นยอดให้กับผู้อ่านเช่นกัน ที่ทำให้เข้าใจว่า "ไม่มีฝันใดที่จะเป็นจริงได้ถ้าไม่ลงมือทำ" ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคุณอ่านจบคุณอาจจะมองผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไป เฌอปรางอาจไม่ใช่หุ่นยนต์ไร้หัวใจอย่างที่ใครคิด หรืออย่างที่ได้เห็นใน Girls Don't Cry แต่เธอเป็นเพียงแค่หญิงสาวคนหนึ่งที่มองโลกด้วย "ความจริง"
หนังสือ SOFT POWER
หาซื้อได้แล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป
#จดอ #JUSTดูIT #CherprangBNK48 #SoftPower